สื่อการสอน
สื่อการสอน หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์
และวิธีการ ซึ่งถูกนำมาใช้ในการการเรียนการสอน
เพื่อเป็นตัวกลางในการนำส่งหรือถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และเจตคติ
จากผู้สอนหรือแหล่งความรู้ไปยังผู้เรียน ช่วยให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่ตั้งไว้
"ความสำคัญของสื่อการสอน" ดังนี้
1. สื่อการสอน ช่วยสร้างรากฐานที่เป็นรูปธรรมขึ้นในความคิดของผู้เรียน การฟังเพียงอย่างเดียวนั้น ผู้เรียนจะต้องใช้จินตนาการเข้าช่วยด้วย เพื่อให้สิ่งที่เป็นนามธรรมเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นในความคิด แต่สำหรับสิ่งที่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้เรียนย่อมไม่มีความสามารถจะทำได้ การใช้อุปกรณ์เข้าช่วยจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและสร้างรูปธรรมขึ้นในใจได้
2. สื่อการสอน ช่วยเร้าความสนใจของผู้เรียน เพราะผู้เรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสได้ด้วยตา หู และการเคลื่อนไหวจับต้องได้แทนการฟังหรือดูเพียงอย่างเดียว
3. เป็นรากฐานในการพัฒนาการเรียนรู้และช่วยความทรงจำอย่างถาวร ผู้เรียนจะสามารถนำประสบการณ์เดิมไปสัมพันธ์กับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ เมื่อมีพื้นฐานประสบการณ์เดิมที่ดีอยู่แล้ว
4. ช่วยให้ผู้เรียนได้มีพัฒนาการทางความคิด ซึ่งต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทำให้เห็นความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น เวลา สถานที่ วัฏจักรของสิ่งมีชีวิต
5. ช่วยเพิ่มทักษะในการอ่านและเสริมสร้างความเข้าใจในความหมายของคำใหม่ ๆ ให้มากขึ้น ผู้เรียนที่อ่านหนังสือช้าก็จะสามารถอ่านได้ทันพวกที่อ่านเร็วได้ เพราะได้ยินเสียงและได้เห็นภาพประกอบกัน
เปรื่อง กุมุท ให้ความสำคัญของสื่อการสอน ดังนี้
1. ช่วยให้คุณภาพการเรียนรู้ดีขึ้น เพราะมีความจริงจังและมีความหมายชัดเจนต่อผู้เรียน
2. ช่วยให้นักเรียนรู้ได้ในปริมาณมากขึ้นในเวลาที่กำหนดไว้จำนวนหนึ่ง
3. ช่วยให้ผู้เรียนสนใจและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการเรียนการสอน
4. ช่วยให้ผู้เรียนจำ ประทับความรู้สึก และทำอะไรเป็นเร็วขึ้นและดีขึ้น
5. ช่วยส่งเสริมการคิดและการแก้ปัญหาในขบวนการเรียนรู้ของนักเรียน
6. ช่วยให้สามารถเรียนรู้ในสิ่งที่เรียนได้ลำบากโดยการช่วยแก้ปัญหา หรือข้อจำกัดต่าง ๆ ได้ดังนี้
ทำสิ่งที่ซับซ้อนให้ง่ายขึ้น
ทำนามธรรมให้มีรูปธรรมขึ้น
"ความสำคัญของสื่อการสอน" ดังนี้
1. สื่อการสอน ช่วยสร้างรากฐานที่เป็นรูปธรรมขึ้นในความคิดของผู้เรียน การฟังเพียงอย่างเดียวนั้น ผู้เรียนจะต้องใช้จินตนาการเข้าช่วยด้วย เพื่อให้สิ่งที่เป็นนามธรรมเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นในความคิด แต่สำหรับสิ่งที่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้เรียนย่อมไม่มีความสามารถจะทำได้ การใช้อุปกรณ์เข้าช่วยจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและสร้างรูปธรรมขึ้นในใจได้
2. สื่อการสอน ช่วยเร้าความสนใจของผู้เรียน เพราะผู้เรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสได้ด้วยตา หู และการเคลื่อนไหวจับต้องได้แทนการฟังหรือดูเพียงอย่างเดียว
3. เป็นรากฐานในการพัฒนาการเรียนรู้และช่วยความทรงจำอย่างถาวร ผู้เรียนจะสามารถนำประสบการณ์เดิมไปสัมพันธ์กับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ เมื่อมีพื้นฐานประสบการณ์เดิมที่ดีอยู่แล้ว
4. ช่วยให้ผู้เรียนได้มีพัฒนาการทางความคิด ซึ่งต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทำให้เห็นความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น เวลา สถานที่ วัฏจักรของสิ่งมีชีวิต
5. ช่วยเพิ่มทักษะในการอ่านและเสริมสร้างความเข้าใจในความหมายของคำใหม่ ๆ ให้มากขึ้น ผู้เรียนที่อ่านหนังสือช้าก็จะสามารถอ่านได้ทันพวกที่อ่านเร็วได้ เพราะได้ยินเสียงและได้เห็นภาพประกอบกัน
เปรื่อง กุมุท ให้ความสำคัญของสื่อการสอน ดังนี้
1. ช่วยให้คุณภาพการเรียนรู้ดีขึ้น เพราะมีความจริงจังและมีความหมายชัดเจนต่อผู้เรียน
2. ช่วยให้นักเรียนรู้ได้ในปริมาณมากขึ้นในเวลาที่กำหนดไว้จำนวนหนึ่ง
3. ช่วยให้ผู้เรียนสนใจและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการเรียนการสอน
4. ช่วยให้ผู้เรียนจำ ประทับความรู้สึก และทำอะไรเป็นเร็วขึ้นและดีขึ้น
5. ช่วยส่งเสริมการคิดและการแก้ปัญหาในขบวนการเรียนรู้ของนักเรียน
6. ช่วยให้สามารถเรียนรู้ในสิ่งที่เรียนได้ลำบากโดยการช่วยแก้ปัญหา หรือข้อจำกัดต่าง ๆ ได้ดังนี้
ทำสิ่งที่ซับซ้อนให้ง่ายขึ้น
ทำนามธรรมให้มีรูปธรรมขึ้น
ทำสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วให้ดูช้าลง
ทำสิ่งที่ใหญ่มากให้ย่อยขนาดลง
ทำสิ่งที่เล็กมากให้ขยายขนาดขึ้น
นำอดีตมาศึกษาได้
ทำสิ่งที่ใหญ่มากให้ย่อยขนาดลง
ทำสิ่งที่เล็กมากให้ขยายขนาดขึ้น
นำอดีตมาศึกษาได้
นำสิ่งที่อยู่ไกลหรือลี้ลับมาศึกษาได้
7. ช่วยให้นักเรียนเรียนสำเร็จง่ายขึ้นและสอบได้มากขึ้น
7. ช่วยให้นักเรียนเรียนสำเร็จง่ายขึ้นและสอบได้มากขึ้น
"การใช้สื่อการสอน"
1. ใช้สื่อการสอนในขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ทั้งนี้เพื่อเร้าผู้เรียนให้เกิดความสนใจ และเปลี่ยนพฤติกรรมในเบื้องต้น โดยปรับตนเองให้พร้อมที่จะเรียนรู้บทเรียนใหม่ ซึ่งอาจกระทำได้โดยการรื้อฟื้นความรู้เดิม (assimilation) หรือขยายความรู้เดิม (accommodation) เพื่อนำมาใช้ให้ประสานกันกับความรู้ใหม่ ซึ่งจะเรียนในขั้นต่อไป
2. ใช้สื่อการสอนในขั้นประกอบการสอนหรือขั้นดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อช่วยให้ความกระจ่างในเนื้อหาที่เรียนหรือทำให้ผู้เรียน เรียนรู้ได้ง่ายขึ้นและเข้าใจข้อเท็จจริงในเนื้อหาอย่างแท้จริงในรูปของการเกิด Concept เข้าใจหลักการสำคัญ และมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในแนวทางที่ดีขึ้นตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ได้กำหนดไว้
3. ใช้สื่อการสอนเพื่อขยายขอบเขตความรู้ของผู้เรียนให้ก้าวหน้าและเจริญงอกงามทั้งในด้านความกว้างและความลึกของภูมิปัญญา ซึ่งเป็นผลของการเรียนอย่างแท้จริง
4. ใช้สื่อการสอนเพื่อย่อสรุปเนื้อหาสำคัญของบทเรียนเกิดเป็น Concept ในเนื้อหาแต่ละเรื่องใช้สื่อการสอนเพื่อส่งเสริมผู้เรียนให้มีการฝึกและพัฒนาตนเองให้รู้จักขั้นตอนและมีความคิดสร้างสรรค์ (Control and Creativity
1. ใช้สื่อการสอนในขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ทั้งนี้เพื่อเร้าผู้เรียนให้เกิดความสนใจ และเปลี่ยนพฤติกรรมในเบื้องต้น โดยปรับตนเองให้พร้อมที่จะเรียนรู้บทเรียนใหม่ ซึ่งอาจกระทำได้โดยการรื้อฟื้นความรู้เดิม (assimilation) หรือขยายความรู้เดิม (accommodation) เพื่อนำมาใช้ให้ประสานกันกับความรู้ใหม่ ซึ่งจะเรียนในขั้นต่อไป
2. ใช้สื่อการสอนในขั้นประกอบการสอนหรือขั้นดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อช่วยให้ความกระจ่างในเนื้อหาที่เรียนหรือทำให้ผู้เรียน เรียนรู้ได้ง่ายขึ้นและเข้าใจข้อเท็จจริงในเนื้อหาอย่างแท้จริงในรูปของการเกิด Concept เข้าใจหลักการสำคัญ และมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในแนวทางที่ดีขึ้นตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ได้กำหนดไว้
3. ใช้สื่อการสอนเพื่อขยายขอบเขตความรู้ของผู้เรียนให้ก้าวหน้าและเจริญงอกงามทั้งในด้านความกว้างและความลึกของภูมิปัญญา ซึ่งเป็นผลของการเรียนอย่างแท้จริง
4. ใช้สื่อการสอนเพื่อย่อสรุปเนื้อหาสำคัญของบทเรียนเกิดเป็น Concept ในเนื้อหาแต่ละเรื่องใช้สื่อการสอนเพื่อส่งเสริมผู้เรียนให้มีการฝึกและพัฒนาตนเองให้รู้จักขั้นตอนและมีความคิดสร้างสรรค์ (Control and Creativity
องค์ประกอบศิลป์ คือ สี ตัวอักษร ขนาดของภาพ โดยเริ่มจาก
1.
เลือกสีของพื้นหลัง
ให้คลิกขวา →format
background เลือกสีที่ต้องการ
2.
ใส่ภาพ Format background แล้ว insert ภาพที่ต้องการ
3.
ถ้า Format
ภาพแล้วภาพแตก ให้ใช้วิธี copy→ paste
4.
สำหรับโปรแกรม window 2007 สามารถเลือกดีไซน์แบบสำเร็จรูปได้
เช่นโทนสี ให้เลือกคลิกที่ design → colors เลือกสีตามที่ต้องการ แต่มีข้อเสียคือ
ถ้าเลือกสีแล้ว เครื่องจะเลือกสีที่คิดว่าเหมาะสมให้ผู้ใช้เอง
แล้วจะเปลี่ยนให้เองทั้งหมด
5.
การเปลี่ยนสีเฉพาะจุดที่ต้องการ
หรือเฉพาะสไลด์ที่ต้องการ ทำได้โดยการคลิกเลือกตัวที่ต้องการเปลี่ยน แล้วไปที่ design เพื่อเลือกสีที่ต้องการ
6.
เมื่อเวลาที่นำไปใช้แล้วพบว่าตัวอักษรบนหน้าจอมีสีจาง
ให้ปรับสีพื้นหลังให้สีเข้มขึ้น แล้วปรับสีตัวอักษรให้อ่อนลง
7.
หากต้องการเปลี่ยน
background แบบง่ายๆ ให้ไปเปลี่ยน template ตามที่ต้องการ
8.
ถ้าต้องการนำ template จากสไลด์อื่นมาใช้ ก็ให้ copy→ paste ไว้ที่หน้าสไลด์ที่ต้องการ
9.
ถ้าใช้ font ที่แปลกใหม่ ไม่มีในเครื่อง
ซึ่งตอนที่ใช้งานยังมีอยู่ แต่พอปิดเครื่อง แล้วเปิดใช้ใหม่
หรือนำไฟล์ไปเปิดใช้กับเครื่องอื่น แล้วปรากฏว่า ตัวอักษรนั้นหายไป แนะนำดังนี้
-
เวบไซต์สำหรับดาวน์โหลดแบบตัวอักษรใหม่ๆที่แนะนำคือ f0nt.com (เอฟ ศูนย์ เอ็น ที)
-
ถ้าต้องการแก้ไขตัวอักษร หรือเปลี่ยนขนาดตัวอักษรทั้งหน้าจอ
วิธีที่เดิมคือไฮไลท์ตัวอักษรที่ต้องการ แต่มีอีกวิธีที่เร็วกว่าคือ กด ctrl
และกดแป้น A พร้อมกัน
จะสามารถเลือกอักษรได้ทั้งหน้าจอ
-
ถ้าต้องการนำไฟล์ที่ใช้งานไปเปิดใช้กับเครื่องอื่น
แล้วกลัวว่าอักษรข้อมูลจะเปิดใช้งานไม่ได้ แนะนำให้ save → PPT options หรือ save options →กด save อีกครั้ง →เลือก embed fonts in the file → embed all characters แล้วตัวอักษรที่ใช้จะไปเปิดใช้งานกับเครื่องไหนก็ได้
การใส่ลูกเล่นภาพเคลื่อนไหวและเสียง
1.
ถ้าต้องการใส่เสียงหรือเพลงประกอบในสไลด์
PPT ให้เลือก insert →sound → เลือก
file เพลงหรือเสียงที่ต้องการ → จากนั้นจะปรากฏคำถามขึ้นที่หน้าจอ ถามว่า How
do you want the sound to start in the slide show? มีสองตัวเลือก
คือ Automatically กับ When clicked เมื่อเลือกได้แล้ว
จะมีรูปลำโพงขึ้นที่หน้าจอ ให้คลิกที่รูปลำโพง จะมีเสียงที่เราใส่ไว้ดังออกมา
2.
ถ้าต้องการใส่ภาพเคลื่อนไหวประกอบในสไลด์
PPT วิธีทำก็จะคล้ายกัน คือให้เลือก insert →movie → เลือก
file ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพยนตร์ที่ต้องการ เมื่อเลือกได้แล้ว
ให้ลองกด play ดู
จะมีภาพเคลื่อนไหวหรือภาพยนตร์ปรากฏขึ้นที่หน้าจอ
3.
ถ้าภาพเคลื่อนไหวหรือภาพยนตร์ที่เราใช้
อาจมีปัญหาเปิดไม่ได้ ให้ใช้โปรแกรม format factory
แปลงไฟล์ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพยนตร์ ให้เป็นนามสกุล .avi
ก็จะสามารถใช้งานได้
4.
ถ้าต้องการเพิ่มจำนวนภาพใน
template ที่เป็นแบบสำเร็จรูป
ให้ลากรูปครอบคลุมรูปทั้งหมด แล้ว group ภาพ
จากนั้นเลือกเฉพาะภาพที่ต้องการ แล้ว copy → paste วางไว้ในที่ที่ต้องการใส่เพิ่ม
5.
หรือเลือก group ที่ต้องการ แล้วคลิกที่ลูกศรด้านซ้าย กด Enter
เพื่อเพิ่มจำนวน
การผลิตสื่อการสอนด้วยโปรแกรม Adobe Presenter
โปรแกรม Adobe Presenter เป็นโปรแกรมใช้งานสำหรับผู้สอนหรือผู้เรียน
ที่ต้องการผลิตสื่อแบบ e-learning อย่างง่ายเพราะผู้ใช้สามารถใช้งานร่วมกับ
Microsoft PowerPoint ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้งานอยู่แล้ว
ก่อนอื่นผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดโปรแกรม Adobe Presenter หรือติดต่อขอโปรแกรมได้จากศูนย์สื่อการเรียนรู้
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ความสามารถของโปรแกรม อาทิเช่น
การบันทึกเสียงบรรยายลงสื่อ การแทรกวิดีโอ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
หรือสร้างแบบทดสอบได้ เป็นต้น
วิธีการติดตั้งโปรแกรม
เมื่อดาวน์โหลดโปรแกรมมาได้แล้วก็ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ติดตั้งและเลือก
next ตามขั้นตอน
ไปจนกว่าโปรแกรมจะแล้วเสร็จแต่ระหว่างที่ลงโปรแกรมจะต้องปิดโปรแกรม Microsoft
PowerPoint ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถ ติดตั้งโปรแกรมได้
วิธีการใช้งานโปรแกรม
เมื่อผู้สอนเปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint มาใช้งานจะสังเกตเห็นปลั๊กอิน Adobe
Presenter ตรงแถบเมนูบาร์ มาให้เลือกใช้งาน
หมายเหตุ กรณีที่ผู้สอนมีสื่อเนื้อหาที่ทำด้วยโปรแกรม
Microsoft PowerPoint อยู่แล้วก็สามารถนำมาตกแต่งเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
หากผู้ใช้เตรียมเนื้อหาเรียบร้อยแล้วเรามาลองใช้ เครื่องมือของโปรแกรม Adobe
Presenter สร้างสื่อการสอนให้น่าสนใจมากขึ้น
การแทรกภาพเคลื่อนไหวและวิดีโอ
เลือกคำสั่ง Adobe Presenter > Insert
Flash
หมายเหตุ
ชนิดของภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอ จะต้องเป็นไฟล์นามสกุล .swf เท่านั้น กรณีที่วิดีโอเป็นนามสกุลชนิดอื่น
ผู้ใช้ต้องใช้โปรแกรมแปลงไฟล์วิดีโอชนิดนั้นก่อนจึงจะสามารถนำมาใช้งานร่วมกับโปรแกรม
Adobe Presenter ได้
การกำหนดคุณสมบัติของแต่ละสไลด์
เลือกคำสั่ง Adobe Presenter > Slide
Properties
การตั้งค่าการนำเสนอของสื่อการสอน
เลือกคำสั่ง Adobe Presenter > Presentation
settings
การสร้างแบบทดสอบ
1. เลือกคำสั่ง Adobe Presenter > Quiz
Manager
Quizzes สร้างแบบทดสอบและข้อคำถาม
Reporting สร้างการรายงานผลแบบทดสอบ
Default Labels สร้างคำอธิบายปุ่ม
และข้อความตอบกลับข้อสอบ
2. การสร้างแบบทดสอบใหม่เลือกไปยังแทบ
Quizzes
2.1 เลือกคำสั่ง Add New Quiz เพื่อสร้างแบบทดสอบ
2.2 เลือกคำสั่ง Add New Question เพื่อสร้างข้อคำถามและตัวเลือก
ผู้สอนสามารถออกแบบคำถามที่มีลักษณะต่างๆ
ได้ 6 รูปแบบ คือ
- คำถามแบบมีตัวเลือก (Multiple choice)
- คำถามแบบถูกหรือผิด (True or False)
- คำถามแบบการจับคู่ (Matching)
- คำถามแบบการให้คะแนนนิยม (Rating Scale (linkert))
- คำถามแบบเติมคำในช่องว่าง (Fill-in-the-blank)
- คำถามให้ตอบแบบสั้นๆ (short Answer)
- เลือกชนิดของคำถามที่ต้องการ เช่น เลือกคำถามแบบ Multiple choice
2.3 กรอกคำถามและตัวเลือก
การผลิตสื่อด้วยโปรแกรม Adobe Presenter จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการผลิตสื่อให้ง่ายสะดวกและรวดเร็ว
โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการใช้งานคอมพิวเตอร์ขั้นสูงมากนักเพราะอาศัยการสร้างเนื้อหาด้วยโปรแกรม
Microsoft PowerPoint และอาศัยเครื่องมือช่วยจัดการของโปรแกรม
Adobe Presenter ที่มีเครื่องมือต่างๆ
มาให้แล้วโดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด